ที่หอประชุมตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา ปลอมธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา พร้อมของกลาง จำนวน ๑๒,๖๒๕ ฉบับ รวม ๑,๒๖๒,๖๐๐ ดอลล่าร์คิดเป็นเงินไทย 42 ล้านบาท เครื่องคัดลอกข้อมูล (SKIMMER) ไม่มียี่ห้อ จำนวน 1 เครื่อง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม หรือบัตรเครดิตของธนาคารต่างประเทศ จานวน 9 ใบ เครื่องอนุมัติวงเงินอัตโนมัติ (เครื่องรูดบัตรเครดิต) จานวน 1 เครื่อง เครื่องตรวจนับและเครื่องตรวจสอบธนบัตร จานวน 6 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ จานวน 9 เครื่องโดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 9 ราย ประกอบไปด้วย นายชู ฉีฟง (ZHU IFENGZHU IFENGZHU IFENGZHU IFENG) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน น.ส.สุพรรณิกาหรือตุ๊กตา เหลาชัย อายุ 40 ปี นายหนุษาหรือนุ สาระคร อายุ 43 ปี น.ส.จารุณีหรือจ๋า อินทร์วิลัย อายุ 37 ปี นายอัครชัยหรือเดี่ยว สุวัฒน์ศุภกุล อายุ 35 ปี นายสุวัฒจักขม์หรือภู ศิริวงศ์ อายุ 50 ปี น.ส.ธนัชพรลักษณ์หรือตู่ ปัทมะริดสา อายุ 53 ปี นายศุภกร รักษาบุรี (เสี่ยวิชัย เมืองเอก) อายุ 64 ปี
โดย พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 ทั้งนี้ มาจากการจับกุมชาวจีน ที่มีบัตรเครดิตปลอม จนสืบทราบที่มาของแบ็งค์ดอลล่าร์ปลอม และได้มีการขยายผลไปจับผู้ต้องหาในเขตเมืองพัทยา จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปทุมธานี ที่ผู้ต้องหานำไปแลกเปลี่ยนธนาคารในภาคอีสาน กับมีการขายตรงในกลุ่มตลาด 100 ดอลล่าร์ ในราคา 1,200 - 1,400 บาท ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐบาล
ด้านทางเจ้าหน้าที่ United States Secret Service สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ฝากเตือน ไปถึงผู้ที่ใช้อัตราแลกเปลี่ยนแบ็งค์ดอลล่าร์ ควรมีการดูเส้นลายน้ำ ซึ่งจะมีความชัดเจนกว่า อีกทั้งกระดาษที่พิมพ์ยังมีความหยาบ ซึ่งแตกต่างกับกระดาษพิมแบ็งค์ของปลอมจะมีความลื่น หากสงสัยก็สามารถสอบถามไปที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้