เมื่อเวลา 17.00 น.( 17 มิ.ย.) ที่ สภ.แสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.ฐิติวัฒน์ สุริยฉาย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้เดินทางไปสอบปากคำกรณีหญิงไทยรับจ้างอุ้มบุญให้กับเครือข่ายประเทศจีน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ที่ทาง พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผู้กำกับการ สภ.แสนสุข ได้รับการร้องเรียนผ่านระบบโซเซียลว่ามีการรับทำอุ้มบุญ หรือรับจ้างตั้งครรภ์แทน ที่หมู่บ้านมณีรินทร์ โมเดิลโฮม บ้านเลขที่ 100/66 หมู่ 6 ตำบลบ้านปึก อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จึงได้สืบสวนและติดตามพฤติการณ์ของหญิงอุ้มบุญ หลังจากนั้นได้ขออนุมัติหมายค้น จนได้ตัวนางสาวเพ็ญนภา วัฒนอินทร์ อายุ 35 ปี ได้รับจ้างตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน และ น.ส.ประกายแก้ว พุธโชค อายุ 30 ปี รับจ้างตั้งครรภ์มาแล้ว 3 ครั้ง และไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน
จากการสอบสวน น.ส.เพ็ญนภา ให้การสารภาพว่า ได้รับค่าจ้างตั้งครรภ์จ่ายเป็นรายเดือนละ 30,000 บาท ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์จะได้เงินประมาณ 450,000 บาท ส่วนการตั้งครรภ์นั้นจะมีการตรวจร่างกายที่กรุงเทพมหานคร หากสภาพร่างกายสมบูรณ์ก็จะฝังตัวอ่อน โดยจะมี น.ส.วัน และ น.ส.จิน เป็นผู้ประสานงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ทั้งหมด เมื่อใกล้คลอดแล้วจะพาไปประเทศกัมพูชา หรือประเทศจีน ปรากฏว่าช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิท-19 ไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ และมีหญิงสาวรับจ้างตั้งครรภ์แล้วประมาณ 7 คน และมีคลอดลูกในไทยแล้ว 1 คน ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำไปเลี้ยงดูในที่ปลอดภัย ส่วนการขยายผลนั้นจะมุ่งพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 เป้าหมาย พร้อมขออนุมัติหมายจับ น.ส.วัน หรือ พรทิวา แร่มี และ น.ส.จิน หรือ น.ส.มลิษา สองเมือง รวมทั้งติดตามเด็กอุ้มบุญที่คลอดมาแล้วทั้งหมด 3 ราย ส่วนตัวการใหญ่ที่ว่าจ้างให้อุ้มบุญในครั้งนี้อยู่ประเทศจีน